วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

TENDAE/STORY #3











TENDAE/STORY #3










ร่างแข็งแรงของจีวอนไม่โอนอ่อนให้ผมเลยแม้แต่น้อย แผ่นอกแข็งแกร่งทำหน้าที่บดเบียดกายเข้าหาเนื้อผิวนวลละเอียดของผม  มันอึดอัดแต่ทว่าก็ทำให้รู้สึกดีเช่นกัน




ผมปัดป่ายลำแขนเพรียวของตัวเองวุ่นวายไปหมดไม่มั่นใจว่าควรจะวางไว้ตรงส่วนไหนดีก่อนจะถูกมือของคนที่กำลังประโลมดูดรับความหวานกับเรียวปากของผมอยู่ดึงท่อนแขนทั้งสองข้างของผมให้โอบรอบลำคอของเขาเอาไว้




เสียงดูดดึงเรียวปาก ยอดอก ผิวเนื้อและแทบจะทุกส่วนของร่างกายผมดังระงมไปทั่วทั้งห้อง




จีวอนได้ขึ้นมาส่งผมและเป็นบุคคลแปลกหน้าคนแรกที่ได้เหยียบย่างกรายเข้ามาในบริเวณอาณาเขตของผม




และเขาก็เริ่มเปิดความสัมพันธ์ขึ้นทันทีที่ไฟในห้องของผมถูกเปิดด้วยมือของผมเอง




ผมไม่ได้ปฎิเสธหรือปัดป้องตัวเอง หนำซ้ำผมยังตอบรับสัมผัสเขาอย่างง่ายดายด้วยซ้ำ




“อื้อ!




ผมครางร้องออกไปเมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งกำลังคลืบคลานเข้าไปใกล้กับส่วนอ่อนไหว  จีวอนลากนิ้วมือของเขาพาดผ่านขาอ่อนด้านในของผมช้าๆ  ทำให้รู้สึกขนลุกได้เป็นอย่างดี  เรียวปากสีสดของเขายกยิ้มส่งมาให้  ยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกตัวล่องลอยและอ่อนปวกเปียก  รอยยิ้มที่แต้มอยู่บนมุมปากนั้นทำให้ผมไม่กล้าละสายตา




ก่อนจะเป็นจีวอนเองที่ทำหน้าที่ของเขาต่อ ริมฝีปากที่ระงมจูบปรนเปรอผมและตัวเขาเองอยู่ก่อนหน้าครอบงำกลางกายของผมจนมิด




“อ่า!




ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งเสียงน่าเกลียดออกไป สองมือขย้ำผ้าปูที่นอนตัวเองจนเริ่มรู้สึกว่ามันคงจะขาดติดมือมาด้วยแน่ถ้ามันบางเบาเกินกว่าจะเป็นผ้าปูที่นอนราคาแพง




“ทำให้บ้างสิ”




เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูซ้ายทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อน  ความวูบโหวงเมื่อครู่ผ่านไปชั่วพริบตาทีเดียว  ผมรู้สึกร่างกะตุกเกร็งเพียงแค่ไม่กี่นาทีก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเขินอายเกินกว่าจะมองหน้าคนที่คร่อมร่างผมเอาไว้




“อืมโคตรดี”




ผมเหลือบตาขึ้นมองคนที่เท้าศอกกับหมอน มือข้างหนึ่งของเขากุมกลุ่มผมของผมเอาไว้แน่นหวังเพื่อระบายแรงอารมณ์ของตัวเขาเอง  จีวอนหลับตาพริ้มริมฝีปากสีสดก่อนหน้ายิ่งบวมช้ำกว่าเดิมเพราะเจ้าตัวเล่นกัดมันเสียจนห้อเลือด




ผมเร่งจังหวะรูดรั้งส่วนนั้นของเขากับโพรงปากของตัวเองเร็วๆ  จีวอนออกแรงจับกลุ่มผมของผมแน่นขึ้นจนรู้สึกได้ก่อนเขาจะกะตุกเกร็งและปล่อยมันออกมาพร้อมกับเสียงครางต่ำรับในลำคอของเขา




“อ๊ะ! เบา”





ผมร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ จีวอนก็คว้าโอกาสที่ผมเงยหน้าขึ้นจากกลางกายของเขา ดึงตัวผมให้นั่งคร่อมระหว่างขาของเขาเอาไว้ ส่วนอ่อนไหวเสียดสีกับหน้าท้องของผมจนรู้สึกประหม่า จีวอนดันท้ายทอยของผมให้เข้าหาเขาก่อนจะประกบจูบอีกครั้ง





รุนแรง เร่าร้อน และไม่มีคำว่าอ่อนโยน




เราไม่ได้เริ่มต้นมีความสัมพันธ์กันด้วยความรัก  มันจึงเป็นเซ็กส์ที่มีแค่สนองความใคร่ของเราสองคน




“ผ่อนคลายหน่อย”




ผมชักเริ่มจะติดใจกับน้ำเสียงทุ้มต่ำของจีวอนซะแล้วสิ  เขาใช้น้ำเสียงแบบนี้กับทุกคนเวลาขึ้นเตียงด้วยกันหรือเปล่านะ  จีวอนทำให้แรงอารมณ์ของผมพุ่งพล่านแค่เพราะใช้น้ำเสียงแหบๆ  ของตัวเอง





“อะ อื้อ”





ผมนิ่วหน้าทันทีที่จีวอนสอดส่งเจ้าแกนกายที่ขยายเต็มตัวเข้ามาสำรวจภายในร่างกายของผม  เหงื่อเม็ดเล็กเม็ดโตเริ่มผุดพราย  จีวอนไม่ได้เร่งจังหวะตามความต้องการของเขาซะทีเดียว เขาสอดใส่มันค้างไว้อยู่แบบนั้นจนผมลืมตาขึ้นเพื่อมองสิ่งที่เขากำลังนิ่งอยู่




“ไม่เคย?”





การโน้มตัวลงมาเบียดบดกับร่างกายของผมที่ขึ้นรอยแดงเต็มตัวแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกเสียวไปทั้งกาย ริมฝีปากที่พรมจูบไปทั่วหน้าอกไม่ทำให้ผมรู้สึกประหม่าน้อยลงแม้แต่น้อย จีวอนเงยหน้ามองผมเหมือนเขากำลังรอคำตอบ




แต่ผมกลับนิ่ง แม้ในใจอยากให้เขาขยับส่วนล่างของตัวเองเสียที ไม่งั้นคงจะกลายเป็นผมเองที่จะต้องทำเรื่องน่าอายแบบนั้น




“ผมไม่เคย”




ตอบออกไปแบบนั้นแต่กลับหลบสายตา  ผมไม่ได้เขินอายที่ครั้งนี้ดันเป็นครั้งแรก  ผมแอบได้ยินเสียงจีวอนสบถออกมาสั้นๆ  ก่อนจะเสยผมที่ปรกหน้าของเขาขึ้น




และเขาก็เริ่มขยับ




เพิ่มจังหวะให้เร็วมากขึ้น  มากขึ้น  และมากขึ้น




ผมรู้สึกสมองโล่งไปหมดทันทีที่ร่างกายตอบสนองโดยการกะตุกเกร็งหน้าท้อง  มือที่จิกแน่นลงบนลาดไหล่ของจีวอนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ทำให้ผมหายใจหอบถี่หนักขึ้นไปอีก  กลัวว่าเขาจะก่นด่า  กลัวว่าผมจะทำอะไรให้ไม่พอใจ  แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ทำได้แค่เพียงนอนหายใจนิ่งๆ  รับสัมผัสรสจูบที่ยังคงโหมกระหน่ำของจีวอนที่ไม่รู้จักหมดสิ้น




ภาพสุดท้ายที่ผมยังคงย้ำคิดติดตาในครั้งนั้นคงจะเป็นภาพที่จีวอนระบายยิ้มออกมาก่อนจะกดริมฝีปากของเขาแนบลงกับหน้าผากที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อของผมราวกับเขาจูบซับความเปียกปอนนั้นให้



( กลับไปอ่านเนื้อเรื่องต่อนะคะ )